Bangkok.Post

วันที่ 24 มิถุนายน 2568 มีรายงานว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้ออกประกาศชี้แจงกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่ บริเวณบ้านโนนสีทอง หมู่ 14 ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 4 คน อีกทั้งพบระเบิดที่ยังไม่ทำงาน 1 ลูก สาเหตุเกิดจากผู้บาดเจ็บเก็บระเบิดนำไปขายให้พ่อค้ารับซื้อของเก่า ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิต แล้วเกิดระเบิดขณะเคลื่อนย้ายระเบิดขึ้นชั่งน้ำหนัก

ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กองทัพภาคที่ 2 โดยมณฑลทหารบกที่ 21 และกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า เป็นกระสุนขนาด 40 มิลลิเมตร ของอาวุธเครื่องยิงลูกระเบิด M203 ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว นอกจากนี้ ยังตรวจพบกระสุน เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 120 มิลลิเมตร ชนิดส่องแสง ซึ่งได้ทำงานไปแล้ว ไม่มีวัตถุระเบิดภายใน ทั้งนี้ หน่วยฯ ได้ส่งชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบระเบิดดังกล่าว และระเบิดที่อาจจะเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุการนำกระสุนมาจากที่ใดนั้น อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ

ทางกองทัพภาคที่ 2 ต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้ ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา มณฑลทหารบกที่ 21 ได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรอบพื้นที่การฝึก ไม่ให้เข้าไปในบริเวณดังกล่าว รวมถึง ไม่ให้ลักลอบนำกระสุนวัตถุระเบิดออกจากพื้นที่การฝึกที่รอการทำลายจากเจ้าหน้าที่สรรพาวุธทหาร ซึ่งเป็นผู้ชำนาญการในการเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดในทุกครั้งที่มีการฝึก

ดังนั้น ด้วยความห่วงใยในความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน จึงขอยกระดับการเตือนภัยเพื่อเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย และเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ แจ้งเตือนผู้ที่รับซื้อของเก่าไม่ควรรับซื้อของเก่าที่เป็นกระสุนวัตถุระเบิดโดยเด็ดขาด หรือหากผู้ใดพบเห็นวัตถุต้องสงสัยที่คล้ายวัตถุระเบิด ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารหรือตำรวจ เข้าตรวจสอบและดำเนินการต่อไป

ขณะเดียวกัน ขอแจ้งให้พี่น้องประชาชนที่มีพื้นที่อาศัยในเขตตำบลอุดมทรัพย์ อำเภอวังน้ำเขียว หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 12 หมู่ที่ 14 และพี่น้องประชาชนที่มีพื้นที่อาศัยหมู่ที่ 5 ตำบลสะแกราช อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ห้ามบุคคลลักลอบเข้าพื้นที่สนามฝึกทางยุทธวิธี กองทัพภาคที่ 2 โดยไม่ได้รับอนุญาตและหากพบวัตถุต้องสงสัย ห้ามจับ ห้ามเก็บ ห้ามแกะ ห้ามเคลื่อนย้ายวัตถุ รวมถึง ห้ามมิให้บุคคลหรือร้านรับซื้อของเก่า นำวัตถุต้องสงสัยขายทอดตลาด และค้าของเก่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ซึ่งผู้ใดฝ่าฝืนจะดำเนินคดีทางกฎหมายทันที

ทั้งนี้ สามารถแจ้งข้อมูล ร้องเรียน ร้องทุกข์ และแจ้งเบาะแส ได้ที่

1. ศูนย์ปฏิบัติการทางยุทธวิธี กองทัพภาคที่ 2 โทร.0 4425 4608

2. ปลัดอำเภอวังน้ำเขียว โทร.06 3187 8600

3. ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอุดมทรัพย์ โทร.08 1360 7636

4. กำนันตำบลอุดมทรัพย์ โทร.09 0831 3059

5. ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโนนเหลื่อม หมู่ที่ 2 โทร.09 8610 8974

6. ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโนนงิ้ว หมู่ที่ 3 โทร.09 1330 4337

7. ผู้ใหญ่บ้าน บ้านตะกุดรัง หมู่ที่ 4 โทร. 06 5635 6220

8. ผู้ใหญ่บ้าน บ้านห้วยพรหม หมู่ที่ 8 โทร. 08 2125 7821

9. ผู้ใหญ่บ้าน บ้านหนองแวง หมู่ที่ 12 โทร.08 9284 2402

10. ผู้ใหญ่บ้าน บ้านโนนศรีทอง หมู่ที่ 14 โทร.08 9285 7547

รวมทั้งขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลพื้นที่ และร่วมกันแจ้งเบาะแสเมื่อพบเจอสิ่งผิดปกติในพื้นที่ หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ หรือพบเห็นการเคลื่อนย้าย หรือสะสมเก็บวัตถุต้องสงสัยหรือนำขายทอดตลาด เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเองและครอบครัว โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที โดยสามารถแจ้งข้อมูลตามหมายเลขติดต่อข้างต้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง

เรียกว่าทำเอาแฟนๆต่างช็อกไปตามๆกัน เมื่อ จอนนี่มือปราบ อินฟลูเอนเซอร์ตำรวจคนดัง ได้ออกมาโพสต์หนังสือประกาศลาออกอย่างเป็นทางการ พร้อมเหตุผล ระบุข้อความว่า เรื่อง ขอลาออกจากราชการเรียน ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานีข้าพเจ้า ดาบตำรวจ ยุทธพล ศรีสมพงษ์





ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี มีความประสงค์ ขอลาออกจากข้าราชการตำรวจด้วยเหตุผล ดังนี้







ตลอดอายุการรับราชการตำรวจของข้าฯมา 25 ปีที่ผ่านมา ข้าฯได้ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์บำบัดทุกข์ บำรุงสุข จับโจรเหล่าร้ายอาชญากร








นำตัวผู้กระทำผิดกฎหมายมาลงโทษอย่างมากมาย มีผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ ผ่านหน่วยงานที่ได้ทำคดีสำคัญอันทรงเกียรติมาหลายหน่วย

และมีผลงานจนได้รับรางวัลทรงเกียรติ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มานับไม่ถ้วนเป็นที่ชื่นชม ยกย่องสรรเสริญ ของชาวบ้าน ประชาชน





และสร้างความศรัทธาแก่ประชาชนมามากมาย แต่ด้วยเมื่อระบบมันขัดต่ออุดมการณ์ของการทำงาน ที่ข้าฯ มีความมุ่งมั่น







อยากจะมีความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้เดือดร้อน เหยื่อ จากปัญหายาเสพติด หรือผู้เสียหายในคดีต่างๆ ที่เขามาขอความช่วยเหลือจากข้าฯ











ที่ข้าฯ มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ อยากจะช่วยเหลือพวกเขา แต่ด้วยกฎหมาย ระบบระเบียบและหน้าที่ มันไม่เอื้อต่อการทำงานของข้าฯ







ไม่อยากให้ประชาชนมารอความหวังจากข้าฯ ว่าข้าฯช่วยเหลือพวกเขาได้ทั้งที่ข้าถูกจำกัดด้วยระเบียบ และข้อกฎหมายในการแก้ไขปัญหายาเสพติด







ที่ข้ากล่าวมาข้างต้น ที่ข้าฯ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน อดทนในการทำหน้าที่ในระบบนี้มาเป็นเวลายาวนานเพื่อหวังว่าระบบมันจะดีขึ้น









กฎหมายจะแข็งขึ้น เพื่อให้ข้าได้ปฏิบัติ ทำให้ยาเสพติดหมดสิ้นไป แต่สุดท้ายก็หาไม่ ข้าฯ จึงขอลาออกจากข้าราชการตำรวจ

และยังคงมีความปรารถนาดีต่อองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งยังคงปรารถนาดีต่อเพื่อนข้าราชการตำรวจทั้งประเทศ ทุกๆนาย



ในเมื่อระบบมันไม่โอเอสำหรับข้าฯ ข้าฯ จึงขอยุติบทบาทหน้าที่อาชีพนี้ลง ข้าฯ ยังคงรักอาชีพนี้ ยังคงคิดดีต่ออาชีพนี้และบุคคลที่ยังประกอบอาชีพนี้

ข้าฯยังคงคิดเสมอว่าอาชีพนี้ ” ยังเป็นอาชีพที่ทรงเกียรติ แต่เพียงระบบมันแย่ ” แล้วข้ายังคงรักเพื่อนตำรวจทุกๆ นายขอให้เพื่อนตำรวจทุกๆ นายทั่วประเทศ



จงโชคดีในการปฏิบัติหน้าที่ของตนเองต่อไปหากวันหนึ่งตัว ข้าฯ ได้มีโอกาสมาสนับสนุนกิจการงานขององค์กรตำรวจได้

หรือเป็นกระบอกเสียงให้กับเพื่อนตำรวจน้ำดีที่ถูกรังแกต่อระบบบแย่ๆ ที่ ข้าฯ พอช่วยได้ ข้าฯ พร้อมยินดี

ข้าฯ จึงขอลาออกจากข้าราชการตำรวจตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปขอให้เพื่อนข้าราชการตำรวจทุกนาย จงโชคดี







ซึ่งหากย้อนไปก่อนหน้านี้ในโซเชียล ยังได้เผยจดหมายอีกหนึ่งฉบับของ จอนนี่ ที่เปิดให้เห็นถึงเงินเดือนประจำตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.สืบสวน ภ.จว.อุบลราชธานี



ที่เริ่มรับราชการเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2544 ปัจจุบันได้รับเงินเดือน ระดับ ป.3 ขั้น 26.5 มีเงินเดือนอยู่ที่ 34,110 บาท

นอกจากนี้หนังสือขอลาออกจากราชการฉบับนี้ยังได้ระบุวันที่ขอลาออกอีกว่าเป็นวันที่ 23 มิ.ย.68 และอนุญาติให้การลาออกมีผลตั้งแต่ 1 ก.ค.68





ขอบคุณข้อมูล: จอนนี่มือปราบ

วันที่ 21 มิถุนายน 2568 เวลา 06.50 น. เกิดเหตุรถตู้พยาบาล (รีเฟอร์) เสียหลักตกข้างทางบริเวณหมู่บ้านน้ำดั้น กม.102 ขณะเดินทางรับ-ส่งต่อผู้ป่วย ท่ามกลางสภาพอากาศฝนตกหนักและพื้นที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ส่งผลให้การประสานงานช่วยเหลือเป็นไปด้วยความล่าช้า


รถพยาบาลเสียหลักตกเหวขณะส่งตัวผู้ป่วย บาดเจ็บทั้งหมด 4 ราย





จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบผู้โดยสารภายในรถทั้งหมด 4 ราย ได้แก่ คนขับรถ 1 ราย พยาบาล 1 ราย ผู้ป่วยที่กำลังถูกส่งตัว 1 ราย และญาติผู้ป่วยอีก 1 ราย ซึ่งทั้งหมดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และได้ถูกนำตัวส่งต่อไปยังโรงพยาบาลแม่ตื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รถพยาบาลเสียหลักตกเหวขณะส่งตัวผู้ป่วย บาดเจ็บทั้งหมด 4 ราย





ขณะนี้รถตู้ที่เกิดอุบัติเหตุตกลงไปในเหว กำลังรอการดำเนินการกู้ขึ้นมาด้วยรถเครน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประเมินความปลอดภัยและประสานความช่วยเหลือ

ทั้งนี้ การเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นวิทยาทานและการนำเสนอข่าวสาร ไม่มีเจตนาอื่นใดแอบแฝง



ขอบคุณ ชมรมอาสากู้ชีพ-กู้ภัยอำเภอฮอด HodRescu

เรียกได้ว่า เป็นนักร้องลูกทุ่งสาวเสียงดี อย่าง ลำไย ไหทองคำ ที่ตอนนี้ไม่ว่าจะทำอะไรก็มักจะถูกจับตาเรื่องความรักอยู่บ่อยๆ และไม่ว่าจะทำอะไรก็มักจะถูกจับตาไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ล่าสุด เจ้าตัวมีโอกาสได้อัปเดตสถานะหัวใจกับสื่อมวลชนอย่างเป็นกันเอง และเผยถึงเรื่องชุดบิกีนี่ที่ลงนั้นมีคนแอบหวงไหม ลำไยตอบพร้อมเสียงหัวเราะว่า




อ๋อ ตอนนี้โสดค่ะ ไม่มีใครมาหวง และเมื่อถามย้ำถึงความสุขของหัวใจตอนนี้ เจ้าตัวเผยว่า ก็ตอนนี้โอเคค่ะ ทุกอย่างโอเค เพราะเราก็รู้สึกเต็มที่กับการทำงานมากขึ้น แล้วก็มีเวลาในเรื่องของการทำงานมากขึ้นด้วย

ยืนยันสถานะโสดสนิทแบบนี้ ทำให้ถูกแซวว่า จีบได้ไหมคะ?

ลำไยตอบกลับอย่างอารมณ์ดีว่า "ก็ลองดู (หัวเราะ)"

สำหรับสเปกหนุ่มที่จะมาพิชิตใจ ลำไยกล่าวว่าเธอ ไม่ได้ปิดใจแล้วก็ไม่ได้เปิด หมายความว่าเธอไม่ได้ใฝ่หา แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้น "คือถ้ามันจะมาก็คงมาเอง เพราะเราก็ไม่ได้จะไปใฝ่เลย ก็เรื่อย ๆ ดีกว่า" เธอยังเสริมว่าด้วยงานที่แน่นมาก ทำให้ไม่มีเวลาใฝ่หาความรัก จึงปล่อยให้เป็นไปตามกาลเวลา




เมื่อถามว่างานแน่นมีผลต่อความรักหรือไม่ ลำไยบอกว่า ก็อาจจะต้อง หนูไม่แน่ใจคนที่เข้ามาอาจจะต้องเข้าใจในการทำงานเรา แล้วก็ถ้าเกิดเป็นคนละสายงานก็ต้องดูเรื่องของเวลาเพราะว่าน่าจะไม่ตรงกันค่ะ ไม่เหงาค่ะ เพราะเพื่อนๆ ก็มีเยอะอยู่ ทำงานไม่มีเวลาเหงาเลย

จากกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกไมค์ของสื่อมวลชนไปโดนหัว จนร้องว่า” โอ้ย เขกหัวแล้วหนึ่ง” ก่อนที่สื่อมวลชนจะรีบขอโทษ ขณะที่นายกฯ ขำ พร้อมตอบกลับว่า ไม่เป็นไร ซึ่งต่อมาทางหมออั้ม อิราวัต ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงประเด็นที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเปิดหน้าของสื่อมวลชนภาคสนามคนนี้




กระทั่งต่อมาทางด้าน อาร์ต พศุตม์ ยังไม่อยู่เฉย พร้อมโพสต์ถึง หมออั้ม ว่า “….เจ๊อั๊ม ผมถามหน่อยไปแขวนเค้าทำไมคับ ในเมื่อท่านนายก เค้าก็บอกว่า “ คนมันเบียดกัน



และ เค้าไม่ได้ตั้งใจ แล้วก็โดนไม่ได้แรงด้วย ”..เจ๊อั๊มก็ยังตั้งคำถาม … “ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆเหรอครับ? แหม่. ”ภาษาน่ารักเหมือนสาวๆ เลยนะคับ…



และท่านนายกก็ยังกล่าวชมนักข่าว ผ่าน สตอรี่ ว่า“นักข่าว น่ารักมาก เข้ามาขอโทษเรียบร้อย สำนักข่าวก็ขอโทษด้วยค่ะ ”




… เจ๊คิดจะอยู่ใกล้ชิดท่าน ต้องใจเย็นๆ รู้มั้ยคับ เจ๊อั๊ม อย่าเอาไฟสุมให้มันร้อนขึ้น เพราะตอนนี้ สถานการ์ณ ก็ร้อนอยู่แล้วนะ เจ๊อั๊ม



❌❌ เจ๊อั๊ม คงไม่เคยลงพื้นที่จริงๆว่า สถานการ์ณ มันคนเยอะและ เบียดขนาดไหน เพราะเจ๊อั๊มถนัดเก่งพิมอยู่ที่บ้านมากกว่า ออกมาเจอสถานการ์ณจริง เท่าที่ผมเห็นนะคับ”



และต่อมายังโพสต์อีกว่า “มาทวงความยุติธรรมให้ นักข่่าว Workpoint Entertainment ที่โดนเจ๊อั๊มกล่าวหาว่าตั้งใจหรือไม่….




ผมไปหามาหลายมุม แต่มุมนี้ชัดที่สุด คือ นักข่าวพยายามจะยื่นไมค์ สัมภาษณ์ท่านนายก แต่ถูก พี่การ์ดใส่หมวกสีน้ำตาลยกมือขึ้นนักข่าวขึ้นแล้วปล่อย



จึงทำให้ ไมค์ หล่นลงโดนหัวท่านนายก ลองดูกันคับ ว่าจริงมั้ย …… เจ๊อั๊ม เวลา จะทำไร….ตาเค้ามีไว้ดู ….หูมีไว้ฟัง …..ปากมีไว้พูด….



ไม่ใช่เอาไว้แหกปาก โดยไม่ดูอะไรเลย กูรู้ว่าอยากเอาใจใส่ท่านนายก แต่มึงช่วยลองลงพื้นที่หน่อยว่าสถานการ์ณหน้างานเป็นยังไง …



ไม่ใช่เจ๊เอาแต่พิมอยู่ที่บ้านมันก็เลยไม่เคยได้สัมผัส บรรยากาศจริงๆ ว่ามันชุลมุนแค่ไหน…..อยากดูแลอยากใส่ใจไปสมัครเป็นการ์ดเลย

จะได้ไม่ต้องมีใครใกล้ท่านได้ …. ปล.สุดท้ายเป็นกำลังใจให้น้องนักข่าวด้วยคับ Noot Sweet”



ขอบคุณข้อมูล: art_phasut98

ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม


ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม


ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม


ข่าวด่วน!! ข่าวเศร้ายืนยันการเสียชีวิตของ… ดูเพิ่มเติม 

กลายเป็นกระเเสฮือฮาในโลกออนไลน์ กับเรื่องราวความรักของคู่รักชาวลาว ที่มีอายุห่างกัน60กว่าปี โดยฝ่ายชายเป็นเศรษฐีมากทรัพย์อายุกว่า 81ปี ส่วนฝ่ายหญิงเจ้าสาวนั้น มีอายุเเค่17ปีเท่านั้น เหมือนกับรุ่นปู่กับรุ่นหลาน เเต่ขึ้นชื่อว่าเรื่องของความรักสวยงามเสมอ รักไร้พรมเเดน อาจจะเป็นพรหมลิขิตที่ทำให้ทั้งคู่มาเจอกัน ฝ่ายหญิงยืนยันชัดเจน ที่ตกลงปลงในเเต่งงานไม่เกี่ยวกับเรื่องสมบัติเงินทอง




โดยทางผู้ใช้เฟซบุ๊ค Siraphop Srakaew เปิดเผยเรื่องราวไว้ว่า สดจากเมืองลาว

ฮักแท้บ่แคร์วัย ฮือฮาโซเชี่ยลลาว ท้าวสมพอนเศรษฐีลาว อายุ 81 เข้าพิธีสมรสกับนางสะหมอน อายุ 17 ปี


โดยเท้าสมพอนเจ้าบ่าว ได้เปิดใจว่า….

“คบหาดูใจกันมาตั้งแต่ฝ่ายหญิงแบเบาะ จนเกิดความฮักความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง จริงใจ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินทองแต่อย่างใด ตั้งใจจะมีลูกด้วยกัน 4 คน #สาบานว่าถ้าภรรยาตาย_จะไม่มีคนใหม่และบวชตลอดชีวิต”

(คอมเมนต์ความคิดเห็นของผู้คนในโลกออนไลน์)



ขอบคุณ